Publications

Let our experience be your guide

Publications

Let our experience be your guide

Inclusive Framework on Base Erosion and Profit Shifting (BEPS) And Multilateral Convention to Implement Tax Treaty Related Measures to Prevent Base Erosion and Profit Shifting: MLI

By Dr. Theeravuth Temsiriwattanakul

  1. Inclusive Framework on Base Erosion and Profit Shifting (BEPS)

ประเทศไทยได้เข้าเป็นสมาชิกลำดับที่ 98 ของ Inclusive Framework on Base Erosion and Profit Shifting (BEPS) เมื่อเดือนมิถุนายน 2560  กรอบความร่วมมือ BEPS เป็นกลไกที่ OECD กำหนดให้ประเทศสมาชิกเข้าร่วมกันกำหนดทิศทางและวิธีการในการนำมาตรการเพื่อป้องกันการกัดกร่อนฐานภาษีและโอนกำไรไปยังประเทศที่มีอัตราภาษีต่ำจำนวน 15 ปฏิบัติการ มาปรับใช้อย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน โดยรัฐสมาชิกจะต้องดำเนินการอย่างน้อยให้ได้มาตรฐานขั้นต่ำ 4 ปฏิบัติการได้แก่

(1) ปฏิบัติการที่ 5  การขจัดมาตรการภาษีที่เป็นภัยต่อประเทศอื่น (Counter Harmful Tax practices)  – โดยปัจจุบันประเทศไทยได้รับสถานะ No Harmful regime เรียบร้อยแล้ว ด้วยการยกเลิก IHQ ROH IBF ITC และเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ใน IBC ให้เป็นไปตามที่ OECD แนะนำ

(2) ปฏิบัติการที่ 6 มาตรการป้องกันการใช้ประโยชน์จากอนุสัญญาภาษีซ้อนผิดวัตถุประสงค์ (Preventing the Granting of Treaty Benefits inappropriate circumstances) – ประเทศไทยดำเนินการตามปฏิบัติการนี้ด้วยการทำความตกลง MLI

(3) ปฏิบัติการที่ 13 การรายงานข้อมูลรายประเทศ (Country-by-Country Reporting) รวมถึงเอกสารการกำหนดราคาโอน (Transfer Pricing Documentation)  ปัจจุบันประเทศไทยได้ทำความตกลง MAC, MCAA CRS, MCAA CbCR รวมถึงการแก้ไขกฎหมายภายในเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลแล้

(4) ปฏิบัติการที่ 14 แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพวิธีการดำเนินการเพื่อความตกลงร่วมกัน หรือ Mutual Agreement Procedure (MAP) (Making Resolution Mechanism More Effective)  ) ประเทศไทยดำเนินการตามปฏิบัติการนี้ด้วยการทำความตกลง MLI

  1. อนุสัญญาพหุภาคีเพื่อดำเนินมาตรการต่างๆ ตามอนุสัญญาภาษีซ้อน เพื่อป้องกันการกัดกร่อนฐานภาษีและโอนกำไรไปยังประเทศที่มีอัตราภาษีต่ำ (Multilateral Convention to Implement Tax Treaty Related Measures to Prevent Base Erosion and Profit Shifting: MLI)

สืบเนื่องจากการที่ประเทศต่างๆ ได้เข้าเป็นสมาชิก BEPS และมีหน้าที่ต้องดำเนินการตามมาตรฐานขั้นต่ำ จะต้องทำการแก้ไขเพิ่มเติมถ้อยคำหรือข้อบทในอนุสัญญาภาษีซ้อนจำนวนมากซึ่งจะใช้เวลานาน ดังนั้น  OECD จึงเสนอทางเลือกในปฏิบัติการที่ 15 ที่จะช่วยให้การดำเนินการเป็นไปได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยให้รัฐสมาชิกเข้าทำอนุสัญญาพหุภาคีร่วมกันเพียงฉบับเดียวเพื่อมีผลเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมอนุสัญญาภาษีซ้อนทั้งหลายของตน ที่เรียกกันว่า อนุสัญญา MLI

ประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีความตกลง MLI เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565  โดยเนื้อหาสาระของอนุสัญญาพหุภาคี MLI แบ่งออกเป็น 7 ส่วน ทั้งหมด 39 ข้อบท  โดยสังเขปดังนี้

ส่วนที่ 1  scope and Interpretation of terms (ข้อบทที่ 2)

ส่วนที่ 2  Hybrid Mismatches  (ข้อบทที่ 3-5)

ส่วนที่ 3 Treaty Abuse  (ข้อบทที่ 6-11)

ส่วนที่ 4  Avoidance of Permanent Establishment Status (ข้อบทที่ 12- 15)

ส่วนที่ 5 Improving Dispute Resolution (ข้อบทที่ 16-17)

ส่วนที่ 6  Arbitration (ข้อบทที่ 18-26)

ส่วนที่ 7 Final Provision (ข้อบทที่ 27-39)

ตามอนุสัญญา MLI นั้น รัฐภาคีสามารถกำหนดท่าทีและเลือกได้ว่าจะนำข้อบทใดมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของประเทศตนได้  และยังสามารถทำข้อสงวนในแต่ละข้อบทได้อีกด้วย

  1. ท่าทีของประเทศไทยในการนำข้อบทในอนุสัญญา MLI มาปรับใช้

ประเทศไทยกำหนดท่าทีในการเลือกนำข้อบทต่างๆ ในอนุสัญญา MLI มาปรับใช้กับภาษีซ้อนที่ประเทศไทยทำไว้  โดยในเบื้องต้น ณ เดือนมิถุนายน 2567 มีอนุสัญญาภาษีซ้อนที่จะถูกอนุสัญญา MLI แก้ไขเพิ่มเติมจำนวน 43 ฉบับ (จากทั้งหมด 61 ฉบับ)  และประเทศไทยได้เลือก 9 ข้อบทในอนุสัญญา MLI มาปรับใช้ โดยแบ่งได้ดังนี้   (โปรดดูข้อมูลท่าทีของประเทศไทยต่อ MLI ใน https://www.rd.go.th/63796.html)

  • ส่วนที่เป็นการปฏิบัติตามมาตรฐานขั้นต่ำของ BEPS

(1) ส่วนที่ 3 Treaty Abuse  เฉพาะข้อบทที่ 6 และข้อ 7 ของอนุสัญญา MLI   ซึ่งเป็นปฏิบัติการที่ 6 ของ BEPS

– ข้อบทที่ 6 เป็นกรณีการแก้ไขอารัมภบทของอนุสัญญาภาษีซ้อนเพื่อป้องกันการใช้อนุสัญญาภาษีซ้อนผิดวัตถุประสงค์

– ข้อบทที่ 7 เป็นกรณีนำหลัก Principle Purpose Test มาปรับใช้กับอนุสัญญาภาษีซ้อน

(2) ส่วนที่ 5 Improving Dispute Resolution Abuse  ข้อบทที่ 16 และข้อ 17 ของอนุสัญญา MLI   ซึ่งเป็นการตามปฏิบัติการที่ 14 ของ BEPS

– ข้อบทที่ 16  เป็นกรณีการปรับปรุงถ้อยคำในอนุสัญญาภาษีซ้อนข้อ 25 ทำให้เกิดการทำความตกลงร่วมกัน (Mutual Agreement Procedure) ให้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

– ข้อบททที่ 17 เป็นกรณีการปรับปรุงถ้อยคำ Associated Enterprise (วิสาหกิจในเครือเดียวกัน) ให้สามารถใช้ปรับปรุงราคาโอนระหว่างบริษัทในเครือเดียวกัน (Corresponding Adjustment) มีประสิทธิภาพใช้ได้จริงมากขึ้น

  • ส่วนที่เป็นการปฏิบัติตามมาตรการทางเลือกของ BEPS

(1)  ส่วนที่ 2  Hybrid Mismatches  เฉพาะข้อบทที่ 5  ของอนุสัญญา MLI   ซึ่งเป็นปฏิบัติการที่ 2 ของ BEPS คือ Neutralizing the Effects of Hybrid Mismatch Arrangement

– ข้อบทที่ 5 เป็นการปรับปรุงข้อบท 23 ของอนุสัญญาภาษีซ้อนเกี่ยวกับวิธีการขจัดภาษีซ้อน โดยกำหนดให้ใช้วิธีเครดิตภาษีแทนวิธียกเว้นภาษี เพื่อป้องกันการไม่เก็บภาษีทั้งสองรัฐ (Double Non-Taxation)

(2) ส่วนที่ 4 Avoidance of Permanent Establishment Status (ข้อบทที่ 12- 15)  ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามปฏิบัติการที่ 7 Preventing the Artificial Avoidance of PE Status ของ BEPS

– ข้อบทที่ 12    เป็นกรณีการแก้ไขถ้อยคำในข้อ 5 ของอนุสัญญาภาษีซ้อน เพื่อป้องกันการเลี่ยงภาษีด้วยการหลบหลีกการมีสถานประกอบการถาวร(Permanent Establishment (PE))  จากการดำเนินธุรกรรมผ่านนายหน้าและกิจกรรมที่คล้ายคลึงกัน

– ข้อบทที่ 13   เป็นการกำหนดให้เฉพาะกิจกรรมที่เป็นการเตรียมการ (Preparatory) หรือเป็นส่วนประกอบ ( Auxiliary) เท่านั้น  จึงจะเข้าข้อยกเว้นของ PE  และการนำหลักการป้องกันการแตกหน้าที่งาน  (Anti-fragmentation Rule) มาปรับใช้

– ข้อบทที่ 14  เป็นการนำหลักการป้องกันการแตกสัญญา (Splitting-up Contract) ให้มีระยะเวลาสั้นๆ  เพื่อหลบเลี่ยงการเกิด PE มาปรับใช้ในอนุสัญญาภาษีซ้อน

– ข้อบทที่ 15 เป็นการกำหนดนิยามของบุคคลที่มีความสัมพันธ์กัน (Definition of  a Person Closely Related to the Enterprise)  ในข้อบท PE ให้ครอบคลุมบริษัทในเครือเดียวกันเพื่อป้องกันการเลี่ยง PE

Scroll To Top